ข้อมูลเที่ยว
ข้อมูลเที่ยว / 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก
1.ชีเชนอิตซา (Chichen Itza) ประเทศเม็กซิโก
                                                                                                                                                  ภาพจาก : iStockPhoto
ชีเชนอิตซา (Chichen Itza) เมืองเก่าและแหล่งโบราณคดีขนาดใหญ่ในรัฐยูกาตัง ประเทศเม็กซิโก ที่มีชื่อเสียงที่สุดของชนเผ่ามายา ภายในชีเชนอิตซามีโบราณสถานสำคัญมากมาย เช่น วิหารนักรบ วิหารนักบวช หอคอยสังเกตการณ์เอลการากอล และบ่อน้ำศักดิ์สิทธิ์ แต่ที่โดดเด่นที่สุดก็คือ “พีระมิดเอลกัสตีโย” วัดของชนเผ่ามายาที่มีลักษณะเป็นพีระมิดยอดตัด มีบันไดทั้งหมด 4 ด้าน ด้านละ 91 ขั้น เมื่อนับรวมกับฐานจะได้ 365 ขั้น หรือเท่ากับจำนวนวันใน 1 ปี ตามปฏิทินของชาวมายา โดยตรงกลางบนยอดพีระมิดจะใช้เป็นที่ประกอบพิธีสังเวยเทพเจ้า ซึ่งมีรูปทรงเป็นสามเหลี่ยมทึบสูงขึ้นไป

ความน่าอัศจรรย์อีกอย่างหนึ่งของพีระมิดนี้ก็คือตัวพีระมิดหันหน้าไปยังตำแหน่งที่เกิดปรากฎการณ์วิษุวัต หรือปรากฏการณ์ที่โลกมีเวลากลางวันยาวนานเท่ากับเวลากลางคืน ซึ่งจะเกิดในเดือนมีนาคมและกันยายน โดยแสงอาทิตย์จะส่องผ่านบันไดด้านทิศเหนือเป็นเงาพาดตัวพีระมิด ดูสวยงามเป็นอย่างยิ่ง 

2.รูปสลักพระเยซูคริสต์ (Christ The Redeemer) ประเทศบราซิล
                                                                                                                                                  ภาพจาก : iStockPhoto
สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ในลำดับถัดมาคือ กริชตูเรเดงโตร์ หรือ Christ The Redeemer รูปสลักพระเยซูคริสต์ความสูง 38 เมตร แขนยาว 28 เมตร สัญลักษณ์อันโด่งดังของประเทศบราซิล แกะสลักจากหินสบู่ขนาดใหญ่ ตั้งตระหง่านเป็นสง่าอยู่ที่ยอดเขากอร์โกวาดู ศาสนาคริสต์เป็นศาสนาหลักของประเทศบราซิล และรูปสลักนี้ก็ถูกสร้างขึ้นบนยอดเขาโดยหันพระพักตร์ของพระเยซูคริสต์เข้าหาเมือง ให้เสมือนว่าเมืองอยู่ใต้การคุ้มครองของพระองค์ เพื่อเป็นที่ยึดเหนี่ยวจิตใจของผู้คนในประเทศ

3.กำแพงเมืองจีน (Great Wall Of China) ประเทศจีน
                                                                                                                                                 ภาพจาก : iStockPhoto
กำแพงเมืองจีน หรือ Great Wall Of China เป็นทั้ง 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกในยุคกลาง และสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ แถมยังได้ขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอีกด้วย กำแพงเมืองจีนน่าจะเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกที่คนไทยคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี และเชื่อได้เลยว่าหลายคนอาจเคยไปเยือนมาแล้ว

กำแพงเมืองจีนก่อสร้างขึ้นเมื่อกว่า 2,500 ปีมาแล้ว มีเป้าหมายเพื่อป้องกันการเข้ามารุกรานดินแดนทางเหนือจากชาวมองโกเลียและชาวเติร์ก โดยกำแพงเมืองจีนมีความยาวกว่า 21,196 กิโลเมตร ครอบคลุมพื้นที่กว่า 15 มณฑลทั่วประเทศจีน มีลักษณะเป็นกำแพงยาวแบบมีป้อมคั่น

กำแพงเมืองจีนมี 7 ด่านสำคัญ ได้แก่
1. ด่านจินซานหลิ่ง    5. ด่านมู่เถียนยวี่
2. ด่านซือหม่าไถ      6. ด่านจูหย่งกวน
3. ด่านเจี้ยนโค่ว       7. ด่านปาต้าหลิง
4. ด่านหวงฮวาเฉิง

4.มาชูปิกชู (Machu Picchu) ประเทศเปรู
                                                                                                                                                  ภาพจาก : iStockPhoto
มาชูปิกชู (Machu Picchu) หรือที่คุ้นกันในชื่อ “นครสาบสูญแห่งอินคา” เป็นสถานที่สำคัญของชนเผ่าอินคา และเป็นหนึ่งในเจ็ดสิ่งมหัศจรรย์โลกยุคใหม่ ที่ได้ชื่อว่าเมืองสาบสูญเพราะผู้คนอพยพออกจากดินแดนแห่งนี้ไปหมด เนื่องจากการรุกรานของชาวสเปน และถูกลืมไปนานนับร้อยปีจนนักโบราณคดี ไฮแรม บิงแฮม ได้มาค้นพบเมื่อ พ.ศ. 2454

มาชูปิกชูตั้งอยู่ห่างจากเมืองกุสโกไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือราว 70 กิโลเมตร ลักษณะเมืองเป็นป้อมปราการแบบลดหลั่นเป็นขั้น ภายในมีซากวัด พระราชวัง น้ำพุ และแท่นบูชา และสถาปัตยกรรมประณีตอีกมากมาย โดยนักสำรวจได้คิดค้นทฤษฎีเหตุผลในการก่อสร้างมาชูปิกชูขึ้นมามากมาย เช่น เพื่อบูชาพระเจ้า เพื่อเป็นบ้านพักตากอากาศของจักรพรรดิอินคา เป็นสถานีทดลองเกษตรกรรม เป็นสถานที่ประกอบพิธีกรรมเกี่ยวกับดาราศาสตร์ ฯลฯ ส่วนไฮไลท์ของมาชูปิกชูอยู่ที่การ์ดเฮาส์ (Guardhouse) ซึ่งเพื่อนๆ จะมองเห็นมาชูปิกชูในมุมกว้างได้อย่างสวยงาม ทั้งนี้การเที่ยวชมมาชูปิกชูให้ได้อรรถรสเพิ่มขึ้นควรไปช่วงฤดูหนาวระหว่างเดือนพฤษภาคม – ตุลาคม เพราะเป็นช่วงปลอดฝน ทำให้ท่องเที่ยวได้อย่างสะดวกสบาย

5.นครเปตรา (Petra) ประเทศจอร์แดน
                                                                                                                                                  ภาพจาก : iStockPhoto
นครเปตรา (Petra) มหานครศิลาทรายสีชมพูหรือนครสีดอกกุหลาบ เป็นเมืองหินที่แกะสลักอย่างประณีตงดงาม ตั้งอยู่ในเมืองอัมมาน ประเทศจอร์แดน เป็นเสมือนศูนย์กลางแห่งตะวันออกกลาง นครหินแห่งนี้อยู่ในหุบเขาระหว่างทะเลเดดซีกับอ่าวอะกาบา

ผู้สร้างนครเปตราคือชาวนาบาเทียน ชนเผ่าที่สกัดผาหินทรายสร้างเป็นบ้านเมือง แต่ก่อนที่นี่เคยเป็นศูนย์กลางการค้าขายยางไม้หอมและกำยานที่สำคัญของโลกตะวันออก การล่มสลายของเมืองเปตราเริ่มตั้งแต่ ค.ศ. 649 เนื่องจากมีการก่อตั้งเมืองใหม่ที่สะดวกสบายและปลอดภัยกว่าหลายเมือง ทำให้นครเปตราเริ่มเสียดุลการค้า โดนรุกราน และไม่มีผู้คนอยู่อาศัยในที่สุด

นอกจากจะเป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่แล้ว นครเปตรายังได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกเมื่อ พ.ศ. 2528 และได้รับการกล่าวถึงว่า เป็นมรดกทางวัฒนธรรมของมวลมนุษยชาติที่ล้ำค่าที่สุดแห่งหนึ่ง นครเปตรามีขนาดใหญ่และกว้างมาก ถ้าใครอยากเที่ยวให้ทั่วอาจต้องใช้เวลาหลายวัน ไฮไลท์ของที่นี่คือมหาวิหารศักดิ์สิทธิ์เอล-คาซเนท์ วิหารแกะสลักบนภูเขาสีชมพูซึ่งสวยงามอย่างมากจนถูกใช้เป็นสถานที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่อง อินเดียน่า โจนส์ ในภาคขุมทรัพย์สุดขอบฟ้าด้วย นครเปตรามีกิจกรรม Petra Night ในช่วงกลางคืนวันจันทร์ พุธ และพฤหัสบดีตั้งแต่เวลา 20.00 เป็นต้นไปด้วย โดยจะมีการจุดเทียนนับพันเล่มบริเวณหน้าเอล-คาซเนท์ และมีการแสดงแสงสีเสียงเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของนครเปตรา ค่าเข้าร่วมกิจกรรม Petra Night จะอยู่ที่ 17 JOD สามารถซื้อตั๋วได้ที่จุดขายตั๋วด้านหน้านครเปตราก่อนเวลา 16.00 น.

6.โคลอสเซียม (Colosseum) ประเทศอิตาลี
                                                                                                                                                  ภาพจาก : iStockPhoto
โคลอสเซียม (Colosseum) เป็น 1 ใน 7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่ ตั้งอยู่ใจกลางกรุงโรม ประเทศอิตาลี มีอายุกว่า 2,000 ปี ในอดีตโคลอสเซียมเป็นสนามกีฬาสำหรับชมการต่อสู้ของนักรบมากความสามารถและมีฝีมือเก่งฉกาจที่เรียกว่าเกลดิเอเตอร์ โดยการต่อสู้มีหลายรูปแบบทั้งการต่อสู้ระหว่างเกลดิเอเตอร์ด้วยกันเองและเกลดิเอเตอร์กับสัตว์ โคลอสเซียมถือเป็นความอัศจรรย์ทางสถาปัตยกรรมตัวจริงด้วยจุผู้ชมได้กว่า 50,000 คน มี 4 ชั้น ใช้เวลาก่อสร้างยาวนานถึง 10 ปี ภายในประกอบด้วยอัฒจันทร์สำหรับผู้ชม ห้องนักสู้ กรงขังสัตว์ และห้องเก็บอุปกรณ์

ในปัจจุบันโคลอสเซียมเป็นสถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงโรม ที่ยังคงรูปแบบอันงดงามและแข็งแรงของโรมันไว้ได้เป็นอย่างดี และควรเข้าชมโคลอสเซียมในช่วงเช้าตั้งแต่เริ่มเปิดเวลา 08.30 น. หรือก่อนเวลาปิด 1 ชั่วโมง ประมาณ 14.30 น. เพื่อหลีกเลี่ยงผู้คนจำนวนมากในระหว่างวัน

7.ทัชมาฮาล (Taj Mahal) ประเทศอินเดีย
                                                                                                                                                  ภาพจาก : iStockPhoto
ทัชมาฮาล (Taj Mahal) เป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกยุคใหม่เพียงสิ่งเดียวที่เกิดขึ้นจากอานุภาพแห่งความรัก เป็นทั้งอนุสรณ์สถานแห่งความรักและสถาปัตยกรรมที่อยู่เหนือกาลเวลา ตั้งอยู่ในเมืองอัครา ประเทศอินเดีย สร้างขึ้นจากหินอ่อนสีขาวนวลบริสุทธิ์และศิลาแลง ประดับเครื่องเพชรพลอยมากมาย เพื่อใช้เป็นอนุสาวรีย์ฝังศพของพระมเหสีในพระจักรพรรดิชาห์ชะฮันที่ครองรักกันนานถึง 18 ปี

ทัชมาฮาลมีขนาดใหญ่ถึง 42 เอเคอร์หรือประมาณ 107 ไร่และใช้เวลาก่อสร้างกว่า 22 ปี ช่วงเวลาที่เหมาะกับการเข้าชมคือช่วงพระอาทิตย์ขึ้น เพราะท้องฟ้าจะเป็นสีชมพูสวยงาม อากาศเย็นสบาย และผู้คนไม่พลุกพล่าน
Copyright © 2017 travelogue.co.th All Rights Reserved. Power BY applezeed.com