10 สถานที่ท่องเที่ยว Tokyo
เป็นเมืองที่เกิดจากการถมทะเลโดยขยะเพื่อสร้างแผ่นดินขึ้นมาเป็นเกาะบริเวณอ่าวโตเกียวเมื่อปี ค.ศ. 1853 ปัจจุบันเป็นเขตธุรกิจสำคัญ และเป็นแหล่งที่เพียบพร้อมไปด้วยสถานบันเทิงนำสมัย แหล่งแฟชั่น สวนสนุกขนาดใหญ่ และย่านกินดื่มยามค่ำคืน โอไดบะเชื่อมกับกรุงโตเกียวด้วยสะพานแขวน 2 ชั้น สะพานสายรุ้ง เรนโบว์ บริดจ์ (Rainbow Bridge) โดยสะพานแห่งนี้ในช่วงกลางคืนจะมีการเปิดไฟสวยงามจนถือเป็นสัญลักษณ์หลักของโอไดบะ ยิ่งไปกว่านั้น ใกล้กับเขตสะพานยังมีรูปปั้นเทพีเสรีภาพจำลองเหมือนที่ประเทศอเมริกาอีกต่างหาก นอกจากนี้โอไดบะก็ยังเป็นที่ตั้งของชิงช้าสวรรค์ที่สูงที่สุดในโลก (115 เมตร) เมืองจำลองยุโรปในศตวรรษที่ 18 ร้านค้ามากมาย การเดินทางไปก็สะดวกสบายด้วยรถไฟสายยูริคาโมะเมะ (Yurikamome line) จากสถานีชิมบาชิ (Shimbashi)
วัดอาสะกุสะ (Asakusa Kannon Temple) หรือวัดเซ็นโซจิ (Sensoji Temple)
วัดเซ็นโซจิ หรือที่นิยมเรียกกันว่า วัดอาสะกุสะเป็น วัดซึ่งตั้งอยู่ในเขตอาสะกุสะ ซึ่งถือได้ว่าเป็นวัดที่มีชื่อเสียงที่สุดในโตเกียว บริเวณรอบๆ วัด จะเต็มไปด้วยร้านค้าในบรรยากาศสมัยเก่า ซึ่งขายทั้งของกินและ ของที่ระลึก เป็นแหล่งช้อปปิ้งสินค้าที่ระลึก สินค้าพื้นเมือง เช่น ชุดยูกะตะ โคมไฟแดงขนาดจิ๋ว พวงกุญแจ พัดจิ๋ว ตุ๊กตาจิ๋ว ตะเกียบ และบริเวณในบริเวณ ถนนนากามิเซะ โดริ (Nakamise Dori) จะมีร้านขนมอร่อยๆมากมาย รวมไปถึงร้านของที่ระลึกน่ารักๆ เช่นกัน การเดินทางสามารถมาได้โดยง่ายด้วยรถไฟใต้ดินสายกินซ่า (Ginza line) จากสถานีอุเอโนะ (Ueno)
เทศกาล ทุกๆ วันที่ 3 พฤศจิกายนของทุกปีจะมีเทศกาลเฉลิมฉลองความเป็นมาของเมือง งานโตเกียว จิได มัทซึริ (Tokyo Jidai Matsuri) นอกจากนั้นในเดือนธันวาคมก็เป็นที่จัดงานแฟร์ประจำปี งานฮาโกอิตะ (Hakoita Fair) และในช่วงก่อนเข้าฤดูใบไม้ผลิ ก็จะมีเทศกาลเซ็ทซึบัน (Setsubun) ซึ่งจะจัดที่วัดต่างๆ รอบประเทศรวมถึงที่วัดแห่งนี้ด้วย
พระราชวังอิมพีเรียล (Tokyo Imperial Palace)
พระราชวังเก่า ตั้งอยู่ใจกลางเมือง เดิมมีชื่อว่า พระราชวังเอะโดะ เป็นสถานที่ประทับของสมเด็จพระจักรพรรดิแห่งราชวงศ์เมจิ แห่งประเทศญี่ปุ่น ในเขตพระราชวังแห่งนี้มีจุดแวะถ่ายรูปยอดนิยม คือ สะพานแว่นตานิจูบาชิ (Nijubashi Bridge) และในบริเวณถัดมาไม่ไกลก็เป็นที่ตั้งของสวนตะวันออกแห่งพระราชวังอิมพีเรียล (Imperial East Garden) ซึ่งถือเป็นจุดชมซากุระบานยอดนิยมแห่งหนึ่งของเมือง เดินทางมาได้โดยรถไฟสายชิโยดะ (Tokyo Metro Chiyoda Line) ลงที่สถานี นิจูบาชิเมะ (Nijubashimae)
สวนสาธารณะอุเอะโนะ (Ueno Park)
เป็นสวนสาธารณะขนาดใหญ่ใจกลางเมืองโตเกียว นอกจากนี้ภายในสวนสาธารณะยังมีวัดคันเอจิ (Kaneiji Temple) ซึ่งเคยเป็นวัดที่มีขนาดใหญ่ และในบริเวณสวนยังเป็นที่ตั้งของสถานที่สำคัญอื่นๆ เช่น พิพิธภัณฑ์แห่งชาติกรุงโตเกียว (Tokyo National Museum) พิพิธภัณฑ์ศิลปะตะวันตก (National Museum for Western Art) พิพิธภัณฑ์ศิลปะมหานครโตเกียว (Tokyo Metropolitan Art Museum) พิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (National Science Museum) สวนสัตว์อุเอโนะ (Ueno Zoo) และยังเป็นจุดชมซากุระบานยอดนิยมของเมืองอีกด้วย
เทศกาล ในช่วงฤดูใบไม้ผลิเข้าฤดูร้อนที่ดอกซากุระบาน จะมีงานชมซากุระที่นี่
ชิบูย่า (Shibuya)
ชิบูย่าหรือชิบูยะ เป็นแหล่งช้อปปิ้งขึ้นชื่อ ถนนของชิบูย่าเป็นศูนย์กลางทางด้านวัฒนธรรมและแฟชั่นของวัยรุ่นในประเทศญี่ปุ่น และเป็นแหล่งกำเนิดของเทรนด์การแต่งตัวต่าง ๆ มากมายและยังเป็นจุดนัดพบยอดฮิต ชินจูกุ (Shinjuku) และฮาราจูกุ (Harajuku) ก็ถือว่าอยู่ในเขตนี้เช่นกัน การเดินทางก็มาได้ง่ายโดยนั่งรถไฟสายยามาโนเตะ (Yamanote) มาลงสถานีชิบูย่า หรือจะใช้รถไฟรอบเมืองสายยามาดะ เซ็น (Yamada sen) ก็ได้ เมื่อเดินออกมาแล้วก็จะเจอรูปปั้นสุนัขผู้ซื่อสัตย์ฮาจิโกะ (Hachiko) ที่ถือได้ว่าเป็นสัญลักษณ์ของชิบูย่าตั้งอยู่ตรงสี่แยกที่อยู่ทางออกของสถานีรถไฟ
ตลาดปลาโทโยสุ (Toyosu Fish Market)
ศูนย์กลางในการแลกเปลี่ยนปลาและสัตว์น้ำขนาดใหญ่ที่สุดในโตเกียวและยังถือเป็นตลาดปลาที่ใหญ่ที่สุดในโลก ในแต่ละวันจะมีการซื้อขายปลาและสัตว์น้ำมากกว่า 2000 ตัน ตลาดจะเปิดตั้งแต่ตี 5 ถึงบ่าย 2 โมง หากอยากจะมาชมการประมูลปลาทูน่า จะต้องมาระหว่าง 05.25-6.15 น. และมาต่อคิวแต่เนิ่นๆ เพราะทางตลาดจะอนุญาตให้นักท่องเที่ยวเข้าชมได้แค่ 120 คนต่อวันเท่านั้น นอกจากจะขายปลาและอาหารทะเลเป็นหลักแล้ว ก็ยังขายผัก ผลไม้อีกด้วย ส่วนคนที่รักอาหารทะเลและซูชิก็ไม่น่าพลาด เพราะในละแวกตลากปลาซึกิจิ ก็มีร้านอาหารทะเลและร้านซูชิที่รับประกันความสด อร่อย และราคาย่อมเยาอยู่มากมาย การเดินทางก็มาได้โดยง่ายตลาดปลาโทโยสุ ตั้งอยู่ที่สถานี Shi่ji-mae รถไฟสาย Yurikamome
ฮาราจุกู (Harajuku)
แหล่งแฟชั่นหลุดโลกของชาวญี่ปุ่นวัยกระเตาะ ที่มักนัดกันแต่งตัวมาเดินโชว์เฉิดฉายกันในย่านนี้ ฮาราจูกุตั้งอยู่ระหว่างชิบูย่าและชินจูกุ เป็นจุดนับพบหลักและย่านวัยรุ่นของเมืองคล้ายๆ กับสยามสแควร์บ้านเรา ซึ่งก็แน่นอนว่าย่อมต้องเป็นเป็นแหล่งร้านค้า ร้านเสื้อผ้าแฟชั่น ร้านขนม และร้านอาหารมากมาย ถนนย่อยๆ สุดฮิตในแถบนี้ก็มีอยู่หลายเส้น เช่น ถนนทาเคชิตะ (Takeshita Dori) ที่ขึ้นว่าเป็นถนนสายเครปแสนอร่อย และถนนโอโมโตะซานโด (Omotosando) แหล่งสินค้าแบรนด์เนมเลื่องชื่อ นอกจากนั้นในบริเวณนี้ยังเป็นที่ตั้งของศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine) อีกด้วย
เทศกาล ในช่วงเดือนมีนาคม-เดือนพฤษภาคม จะมีเทศกาลฤดูใบไม้ผลิที่ศาลเจ้าเมจิ (Meiji Shrine Spring Festival)
ชินจูกุ (Shinjuku)
เป็นแหล่งรวมความบันเทิง แหล่งธุรกิจ และห้างสรรพสินค้ามากมาย เช่น ห้างโอดาเกียว (Odakyu) ห้างทาคาชิยามะ (Takashimaya) ห้างอิเซตัน (Isetan) ห้างเคอิโอ (Keio) ห้างมายลอร์ด (Mylord) และศูนย์เครื่องไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ยามาดะ เด็นกิ (Yamada Denki) เป็นต้น นอกจากนั้นชินจูกุยังเป็นที่ตั้งของอาคารว่าการเมือง มีสถานีชินจูกุ ที่ขึ้นชื่อว่าเป็นสถานีรถไฟที่มีความวุ่นวายที่สุดในโลก และมีที่เที่ยวน่าสนใจอื่นๆ อีก เช่น โรงละครแห่งชาติโตเกียว สวนสาธารณะชินจูกุ เกียวเอ็น (Shinjuku Gyoen) ตรอกร้านอาหารโอโมยิเดะ (Omoide Yokocho) ศาลเจ้าฮะนะโซะโนะ แหล่งร้านกินดื่มศูนย์รวมนักคิดโกลเด้นทาวน์ (Golden Gai) และแหล่งร้านเกาหลี (Shin-Okubo Koreatown)
หอคอยโตเกียว (Tokyo Tower)
หอคอยสูง 333 เมตร ที่เลียนแบบมาจากหอไอเฟล (Eiffel Tower) ในปารีส (Paris) แต่สูงกว่าและเบากว่า เป็นหอคอยการสื่อสารของสถานีวิทยุและโทรทัศน์ของประเทศญี่ปุ่น นอกจากนั้นยังเป็นจุดชมวิวยอดนิยมและยังถือเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญอีกอย่างของเมือง หอคอยแห่งนี้เปิดให้ทำการมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2501 มีจุดชมวิวที่ความสูง 2 ระดับ คือ จุดชมวิว 150 เมตร และจุดชมวิว 250 เมตร ในบริเวณชั้นที่ 1 มีส่วนของพิพิธภัณฑ์สัตว์น้ำ โอเชี่ยนเวิลด์ (Ocean World) ชั้นที่ 3 เป็นพิพิธภัณฑ์หุ่นขี้ผึ้ง ชั้นที่ 4 เป็นพิพิธภัณฑ์ศิลปะ (Art Gallery) และมีร้านค้า ร้านอาหารให้บริการอยู่บนหอคอยแห่งนี้ด้วย
โตเกียวดิสนีย์รีสอร์ต (Tokyo Disney Resort)
สวนสนุกระดับโลก สาขาโตเกียวซึ่งมีทั้งส่วนที่เป็นสวนสนุกบนพื้นดิน (Disney Land) และส่วนของสวนสนุกแบบสวนน้ำ (Disney Sea) ที่คุณจะได้เพลิดเพลินตากับการล่องเรือไปชมตุ๊กตานานาชาติ สนุกสนานกับเครื่องเล่นต่างๆ และชมการแสดงพาเหรดตัวการ์ตูน โดยมีการแบ่งโซนเครื่องเล่นเป็น 7 โซน ที่สำคัญยังมีส่วนของโรงแรมที่พัก ร้านค้าและศูนย์รวมร้านอาหาร เรียกได้ว่าครบวงจรการท่องเที่ยวแบบครอบครัวเลยทีเดียว
สถานที่ท่องเที่ยวอื่นๆ ที่น่าสนใจ
กินซ่า (Ginza)
แหล่งร้านค้าสินค้าแบรนด์เนมหรูหรา และร้านอาหาร ภัตตาคารระดับ 5 ดาว
รปปงงิ (Roppongi)
เป็นย่านที่ทันสมัยหรูหราที่สุดแห่งหนึ่งในโตเกียว แหล่งท่องเที่ยวยามราตรี และมีห้างสรรพสินค้าใหญ่ โตเกียว ทาวเวอร์ ก็อยู่ในเขตนี้
ถนนอาเมะยะโยโกะโจ (Ameya Yokocho)
แหล่งร้านอาหารและช้อปปิ้งสินค้าหลากหลายราคาย่อมเยา
อะคิฮะบาร่า (Akihabara)
แหล่งช้อปปิ้งเครื่องใช้ไฟฟ้า สินค้าไอที อิเล็คทรอนิกส์ต่างๆ
โคอิชิกาว่า โคระกุเอ็น (Koishikawa Korakuen)
เป็นสวนสไตล์ญี่ปุ่นที่เก่าแก่ที่สุดและดีที่สุดของประเทศ ในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์จะมีเทศกาลลูกพลัม และเทศกาลชมดอกซากุระบาน
สวนพฤกษชาติโคอิชิกาว่า (Koishikawa Botanical Garden)
สวนญี่ปุ่นตั้งอยู่ใกล้กับมหาวิทยาลัยโตเกียว ซึ่งมีพันธุ์พืชกว่า 1000 สายพันธุ์
โอโมเตะซันโด/อาโอยาม่า (Omotesando Aoyama)
ย่านไลฟ์สไตล์อันทันสมัยอยู่ติดกับฮาราจูกุ ถนนโอโมเตะซันโด (Omotesando) ซึ่งได้ขนานนามว่า “ถนนช็องเซลีเซ แห่งกรุงโตเกียว” (Champs-Elysees of Tokyo) เป็นย่านที่เต็มไปด้วยร้านสินค้าแบรนด์เนม
เรียวโงคุ (Ryogoku)
สถานที่ตั้งเวทีซูโม่ ณ สนามเรียวโงคุ โคคุกิคัง (Ryogoku Kokugikan National Sumo Stadium) และพิพิธภัณฑ์ซูโม่
พิพิธภัณฑ์ดาบญี่ปุ่น (Japanese Sword Museum)
จัดแสดงดาบญี่ปุ่นรูปแบบต่างๆ ในแต่ละสมัย
เซ็นทรัล พาร์ค (Central Park)
สวนสาธารณะกลางใจเมือง ตั้งอยู่ด้านหลังอาคารที่ว่าการเมือง
ย่านราตรีคาบูกิ (Kabukicho)
แหล่งท่องเที่ยวยามราตรีที่ใหญ่ที่สุดของประเทศ มีทั้งร้านอาหาร ผับบาร์ และที่เที่ยวยามราตรีมากมาย
โตเกียวโอเปร่าซิตี้ (Tokyo Opera City)
ตึกสูงระฟ้าเป็นที่จัดแสดงโอเปร่าของเมือง อีกทั้งยังมีสวนอาหารลอยฟ้าและร้านสินค้ามากมาย
Credit : Skyscanner